วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Suffix ที่ลงท้ายแล้วหมายถึง คน

คำศัพท์ส่วนมากในภาษาอังกฤษจะมีหลักการสร้างคำง่ายๆคือ เติมข้างหน้า-เติมข้างหลัง แล้วจะได้คำใหม่ขึ้นมา แล้วจากที่เรารู้คำศัพท์สั้นๆเพียงหนึ่งคำ หากรู้หลักการแบบนี้แล้วอาจจะทำให้รู้เพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 3 หรือ 4 คำ
ตัวอย่าง เช่น คำว่า act ที่แปลว่า แสดง หรือ ทำ จะมีคำที่เป็นพวกเดียวกับมันอีกหลายคำ เช่น react, reaction, actor, acting, action, actress, active, activity, inactive เป็นต้น

ประโยชน์ของการรู้หลักการเติมข้างหน้า-เติมข้างหลัง หรือ Prefix-Suffix นี้ จะช่วยเราได้ค่อนข้างมากทีเดียวเวลาเราเจอคำศัพท์ยาวๆ หรือคำที่คุ้นๆแล้วมักจะจำสลับกับคำอื่นๆ เพราะเราจะสามารถตัดคำที่เป็น Prefix(คำที่เติมด้านหน้า) และ Suffix (คำที่เติมด้านหลัง) แล้วจะรู้ Root (รากศัพท์) ว่าจริงๆแล้วที่มาของคำศัพท์คำนั้นคืออะไร หรืออย่างน้อยก็รู้ว่าจะเดาไปในทิศทางไหน เช่นวันนึงไปเจอคำนี้ "concertgoers" อาจจะตกใจว่าไม่เคยเจอ จริงๆแล้วถ้าดูดีๆมันคือคำว่า concert + goers แปลว่า คนที่ไปร่วมงานคอนเสิร์ต .... เห็นมั๊ยคะว่าช่วยได้จริงๆ ^___^

พอรู้แบบนี้แล้วอยากให้ทุกคนลองเปลี่ยนจากการท่องคำศัพท์มาลองสังเกตุดูว่าคำศัพท์นั้นๆเป็นคำยาวๆที่เกิดจากคำสั้นๆ ง่ายๆ รึเปล่า เช่น  unicycle - bicycle - tricycle  ทั้งสามคำนี้มีรากศัพท์เดียวกัน คือ cycle ที่หมายถึงสิ่งที่เป็นวงกลม และเปลี่ยนแค่คำด้านหน้า ซึ่ง uni- แปลว่า 1, bi แปลว่า 2, tri แปลว่า 3 ดังนั้น unicycle คือจักรยานล้อเดียว - bicycle คือจักรยานสองล้อ และ tricycle คือจักรยานสามล้อ    หรือจากที่เราเคยท่องหรือเรียนมาว่า engineer แปลว่า วิศวกร ถ้าเราลองสังเกตดีๆจะเห็นว่ามันเกิดจากคำว่า engine เครื่องยนต์ + er ซึ่งเป็น suffix ที่มักจะหมายถึง"คน" ทำให้หมายถึงคนที่ทำงานเกี่ยวกับเครื่องยนต์ เครื่องจักรต่างๆ หรือ วิศวกรนั่นเอง

วันนี้เราจะมาดูว่ามี Suffix ไหนที่เติมไปท้ายคำต่างๆแล้วจะหมายถึง"คน" ได้บ้าง



1.-er เช่น   teach (สอน) - teacher (ผู้สอน), sing(ร้อง) - singer (นักร้อง), drive(ขับ) - driver(คนขับ)  *บางกรณีอาจจะแปลว่าเครื่อง/ ตัว เช่น cleaner(เครื่องทำความสะอาด) blender(เครื่องปั่น) heater (เครื่องทำความร้อน) เพราะฉะนั้น ดูสถานการณ์ดีๆนะคะ  เพราะบางคำแปลได้ 2 แบบ เช่น speaker แปลได้ว่า ผู้พูด กับ ลำโพง และขอเตือนว่าถึงคำที่ลงท้ายด้วย er (หรือ suffix ตัวอื่นๆ) ส่วนมากแปลว่า คน แต่ก็มีบางคำที่ไม่เข้าข่ายเช่น liver, dinner นะคะ
2. -or เช่น doctor  หมอ, mentor ผู้ให้คำปรึกษา, actor นักแสดงชาย, auditor ผู้สอบบัญชี, creator ผู้สร้าง, sponsor ผู้สนับสนุน, donor ผู้บริจาค
3. -ist เช่น  scientist, artist, specialist, finalist, florist, biologist, stylist, vocalist, guitarist, cyclist (ส่วนมากจะแปลว่า -นัก.../ ผู้เชี่ยวชาญ) ถ้าคำที่ไม่ได้มีรากศัพท์จะไม่นับรวมในกรณีนี้นะคะ เช่น list/ wrist/ twist 
4.-ian เช่น musician, magician, librarian, politician, Asian, civilian,electrician, technician คำที่น่าสนใจในกลุ่มนี้คือ vegetarian มาจาก vegetable ที่แปลว่าผัก กับ -ian ทำให้คำนี้แปลว่าคนที่กินผัก หรือ เปิดใน dictionary ก็จะแปลว่า มังสวิรัติ ซึ่งอาจจะฟังดูยากถ้าจะท่องจำ แต่ถ้าเราจำจากความเข้าใจคำศัพท์คำนี้จะกลายเป็นเรื่องง่ายไปทันที
5. -ant /-ent  2 ตัวนี้น่าสนใจนะคะ เพราะเราอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยเท่า 4 ตัวที่ผ่านมา แต่สับสนได้ง่ายๆ เพราะถ้าเมื่อไหร่คำที่ลงท้ายแบบนี้เปลี่ยนไปเป็น -ence  จะกลายเป็นคำนามที่แปลว่าการ / ความ หรือแปลอย่างอื่นได้อีก 
เช่น คำว่า assist แปลว่าช่วย - assistant แปลว่าผู้ช่วย - assistance แปลว่า ความช่วยเหลือ 
resident แปลว่าผู้อยู่อาศัย - residence แปลว่าที่อยู่อาศัย 
participant (ผู้เข้าร่วม)   contestant ผู้เข้าประกวด   applicant ผู้สมัคร   tenant ผู้เช่า patient ผู้ป่วย
*นอกจากนี้ ยังมีบางคำที่ลงท้าย -ent แต่ไม่ได้แปลว่าคน แต่เป็น adj. แทน เช่น different แตกต่าง, permanent ถาวร, innocent ไร้เดียงสา     และถ้าเป็น ment ก็จะแปลว่าการ / ความ  หรือคำที่ไม่ได้มีรากศัพท์ก็จะแปลแบบนี้ไม่ได้เช่น scent
6. -ee (มักจะหมายถึงกลุ่มคน หรือผู้ที่ถูกกระทำ) เช่น committee คณะกรรมการ, refugee ผู้อพยพ, trainee พนักงานฝึกงาน, employee ลูกจ้าง, trustee ผู้ได้รับมอบหมาย, conferee ผู้เข้าร่วมประชุม, nominee ผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิง

นอกจากคำ suffix เหล่านี้ก็ยังมีอีกบางคำที่ลงท้ายด้วย Suffix อื่นๆแล้วแปลว่า คน ได้เช่นกัน : detective นักสืบ, representative ตัวแทน, criminal อาชญากร, fisherman ประมง, official เจ้าหน้าที่, personnel พนักงาน

* * * Physicist แปลว่า นักฟิสิกส์  แต่ Physician แปลว่า หมอนะคะ *  * *

หวังว่าทุกคนจะได้แนวคิดดีๆอะไรไปบ้างนะคะ ต่อจากนี้ถ้าเจอคำว่า comedian, socialist, economist, chemist น่าจะพอเดากันได้ทุกคนแล้วนะคะว่าแปลว่าอะไรบ้างงงง 

ขอบคุณค่ะ ^__^

1 ความคิดเห็น: