ก่อนอื่นมาลองดูการให้คะแนนกันก่อนนะคะ เพราะหลายๆคนสงสัยว่าคะแนน TOEIC คิดยังไง จะข้อละ 4.5, 4.9 ก็ไม่ใช่ ข้อละ 5 คะแนนก็ไม่เชิง วิธีคิดก็คือ เค้าเทียบคะแนนที่ได้ในแต่ละ part จากตารางด้านล่างนี้
ขอบคุณภาพ จาก https://www.bangkok-ict.com/toeic-guidance/
วันนี้จะมาพูดถึงเทคนิคการทำข้อสอบ TOEIC ใน 2 Part แรก ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ยากจนเกินไปและทุกๆคนสามารถทำคะแนนได้ค่อนข้างดีถ้าจับจุดได้ และที่สำคัญถ้าทำแค่ 2 พาร์ทนี้ได้เต็ม จะได้คะแนนส่วน Listening ไปแล้ว 185 คะแนนง่ายๆแบบไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องท่องศัพท์เยอะ และไม่ต้องจำแกรมม่าอะไรมากมาย
PART 1
Photographs 10 ข้อ (มีรูปภาพให้ -> หาคำที่ตรงกับรูปภาพมากที่สุด 4 ตัวเลือก)
ลักษณะประโยคพื้นฐาน จะสั้นๆ (1)ประธาน + (2)กริยา + (3)กรรม หรือ ส่วนขยาย
1. ตัดประธานที่ไม่ใช่ : อันดับแรกก็ดูประธานก่อนว่าเป็นใคร / คนหรือสิ่งของ เช่นเป็นผู้ชายคนเดียว เป็นเด็กๆ เป็นกลุ่มคนหลายๆคน หรือ เป็น รถไฟ เครื่องบิน แต่หลายครั้งที่ประธานจะใช้คำเดียวกันในทั้ง 4 ตัวแลือก เช่น The man, The children, The passenger, The people, The train, Boxes, They เหมือนกันทั้ง 4 ข้อ * ถ้าประโยคขึ้นต้น ด้วย There is / There are จะแปลว่า มี
2. ฟัง -ing : ถ้าประธานเป็นคนควรโฟกัสที่กริยาเพราะมักจะเป็นรูป Ving เพื่อบอกว่ากำลังทำอะไรอยู่ เพราะฉะนั้นถ้าเป็นคนที่ไม่ได้คุ้นเคยการฟังภาษาอังกฤษเท่าไหร่ เราอาจจะตั้งใจฟังคำที่ลงท้ายด้วย -ing (อิ้ง) แล้วดูว่าตรงกับสิ่งที่ทำรึเปล่า เช่น
รูปเป็นคนกำลังดื่มน้ำอยู่ He is playing... / He is working... / He is drinking... / He is sitting...
*ข้อควรระวัง ในภาษาอังกฤษจะมีเรื่อง Voice อยู่ คือทำกับถูกกระทำ ดังนั้นถ้ารูปภาพเป็นสิ่งของถูกกระทำ ต้องมีคำว่า being + V3 เช่น เป็นรูปเครื่องปริ้น ปริ้นงานอยู่ จะต้อง the document is being printed จะบอกว่า (the document is printing ไม่ได้), Boxes are being loaded เพราะฉะนั้นถ้าในรูปสิ่งที่เห็นชัดๆคือสิ่งของถูกกระทำ ควรเลือกคำตอบข้อที่มีคำว่า being หรือข้อที่ขึ้นตนด้วย There are
3. ฟังบุพบท : ส่วนที่สามหลังจากฟังกริยาแล้วจะเจอใน 2 รูปแบบ ถ้าในรูปมีกรรม (สิ่งที่ถูกประธานกระทำ) ให้เลือกข้อที่มีคำศัพท์นั้น แต่อีกลักษณะที่จะเจอได้ คือพวกคำบอกตำแหน่ง (บุพบท : preposition) เช่น in, on, under, around กรณีหลังจะเจอได้บ่อยกว่าและมักจะหลอกโดยการเปลี่ยนคำบุพบทไปในแต่ละตัวเลือก - เทคนิคนี้จะช่วยได้ดีเมื่อฟังตั้งแต่ต้นไม่ทัน แต่รู้ว่าในรูปมีกระดาษอยู่บนโต๊ะ ก็ยังจะพอเลือกข้อที่ได้ยินคำว่า On the table ได้
**** แต่ละข้อให้ตั้งสติ ดูรูป - เดาศัพท์ที่คิดว่าจะเจอ (ดูจุดเด่นๆ ไม่ต้องสนใจฉากหลังมากนัก - นึกกริยาที่น่าจะเจอด้วย) - ฟัง แล้วตัดสินใจตอบ อย่าคิดนานนะคะ เดี๋ยวจะไม่ทัน ****
ตัวอย่างการเดาศัพท์ (แบ่งเป็น 3 ส่วนนะคะ (1)ประธาน + (2)กริยา + (3)กรรม หรือ ส่วนขยาย )
1. ที่เห็นชัดๆคือ 1.ผู้ชาย-
The man 2. ถือ -
carry (คำนี้ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร) 3. กล่อง -
a box
ตัวเลือก 1. The supermarket is empty (supermarket เป็น ฉากหลัง ไม่ควรขึ้นต้นประโยค Xผิด )
2. The man is carrying a box . (คำตอบที่ถูกต้อง -คำสำคัญจะดังชัดขึ้นมา ไม่จำเป็นต้องฟังหรือแปลทุกคำนะคะ เพราะหลายคนจะกลัวฟังไม่ทัน)
3. The man is wearing a jacket. (ข้อนี้เราจะได้ยิน man และ jacket ค่อนข้างชัด Xผิด )
4. There are a lot of boxes to move. (คำว่า There are แปลว่า มี มักจะเจอกับรูปที่ไม่มีจุดเด่นอะไรชัดเจน เช่น รูปที่มีนกหลายๆตัวบนพื้น มีคนเยอะยืนอยู่แต่ไม่ชัดเจนว่าทำอะไร Xผิด )
2. รูปนี้ไม่มีอะไรเด่นเป็นพิเศษ น่าจะเจอ 1 - There are (มีเรือเยอะ) - boat / ship (เรือ) 3 - in - ocean / river/ island/ bay/ harbor (เดาทุกอย่างที่นึกออกเกี่ยวกับน้ำ)
3.
1. ผู้หญิง - A woman / lady 2.getting 3 ออกจาก - off / out of - รถ the car
4.
1. คนหลายคน The men / The people/ They (are ไม่ใช้) 2. ปรึกษา discussing* talking ดู looking/ watching 3. ในการประชุม . meeting- conference - office คำตอบข้อนี้คือ
The are discussing on their plan.
5. รูปนี้ที่เห็นหลักๆเลยคือ ตึก กับ ไฟ -> 1.building 2.on fire ตอบ
The buildings are on fire.
-- ลองฝึกดูนะคะ มีหลายเวปที่สามารถฝึกทำออนไลน์ได้ เช่น
PART 2
มีคนถามหรือพูดอะไรซักอย่างออกมา และ ให้เลือกข้อที่เป็นคำตอบ - หรือการโต้ตอบที่เหมาะสมที่สุด โดยไม่มีอะไรเขียนมาให้- 30 ข้อ
* พาร์ทนี้จุดที่สำคัญคือต้องฟังคำแรกของคำถามให้ออก - บางคนฟังตอนท้ายออกหมดเลยแต่จับคำแรกไม่ได้ก็จะแทบไม่มีประโยชน์ เช่น ______ are you going to the office? ได้ยินหมดเลย แต่คำแรก ไม่แน่ใจว่าเป็น When คุณจะไปออฟฟิศเมื่อไหร่/ How คุณจะไปออฟฟิศยังไง / Why คุณจะไปออฟฟิศทำไม - ก็จะทำให้ไม่รู้ว่าต้องตอบข้อไหนกันแน่
คำถามหลักๆในภาษาอังกฤษมี 2 ลักษณะ
1. คำถามที่ต้องตอบ Yes/No คำถามกลุ่มนี้จะขึ้นต้นด้วย กริยาช่วย Do / Does/ Did / Can / Could/ Will/ Would/ Is-am-are/ Was-were/ Should / May/ Have/ Has หรือ ลงท้ายด้วย Question Tag (...,will you? ..,do you? ..,isn't he?) - ถ้าฟังไม่ทันจริงๆ มีอีกวิธีที่สังเกตได้ คือการถามว่า ใช่/ ไม่ใช่ ส่วนมากจะลงท้ายด้วยเสียงสูง คล้ายๆกับเวลาคนไทยบอกว่า ใช่มั๊ย / หิวมั๊ย ..ถ้ารู้ว่าถามแบบนี้ ควรเลือกตอบข้อที่เป็น yes/noได้เลย หรืออาจจะมีคำอื่นที่ใช้แทนการตอบ Yes/No เช่น
YES - no problem, sure, of course, definitely, that's right etc.
NO - I'd love to, but... , I don't think so, etc.
ปัญหาคือ บางทีเป็น Yes / No ทั้ง 3 ตัวเลือก ->
1.ฟังสรรพนามในคำตอบให้สอดคล้องกับที่ถาม เช่น ถาม Do you... ตัวเลือกอาจจะมี Yes,it does / No, she doesn't/ Yes, I do ตัวเลือก ที่ 3 ถูกต้อง
2. ควรฟังอีกคำในคำถามพอให้รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร จะได้เดาคำตอบที่เป็นสถานการณ์เดียวกันได้ เช่น รู้แล้วว่าเป็นคำถาม Yes/No และได้ยินอีกคำว่า dinner แสดงว่าคำตอบต้องเกี่ยวกับอาหารการกินอะไรซักอย่างแน่ๆ
*ถ้าคำถามมีคำว่า Do you mind... Would you mind
ให้เลือตอบข้อที่เป็น No, not at all เพราะหลายคนชอบเข้าใจผิด!
(would you mind = คุณจะรังเกียจมั๊ย เลยต้องต้องว่า "ไม่" )
* _____,will you? ถ้าเจอคำลงท้ายแบบนี้ จะแปลว่าได้ไหม (ขอให้คนทำอะไรให้คล้ายๆคำว่า Please)
2. คำถามที่ถามข้อมูล ใคร-ทำอะไร-ที่ไหน-เมื่อไหร่... ขึ้นต้นด้วย wh- ถ้าถาม who ตอบ คน/ชื่อคน/อาชีพ where ตอบสถานที่ what do you think ตอบเป็นพวกความรู้สึก ประมาณนี้ ระวังจะถามหลอกด้วยการบอกว่า Do you know where he is? หลายคนได้ยิน Do you.. จะนึกว่าต้องตอบ yes/no แต่จริงๆต้องฟังคำว่า where
สำหรับคำว่า how ใช้ถามได้หลายแบบ
1. how much (ตอบเป็นราคา)
2. how many(ตอบเป็นจำนวน)
3. how long (ตอบเป็นระยะเวลา)
4. how เฉยๆถามว่าอย่างไร ส่วนมากตอบเป็น adv. (ลงท้ายด้วย ly หรือพวกความรู้สึก)
5. how to (ถามถึงวิธี)
6. how can I get to (ตอบเป็นพวกยานพาหนะ)
7. how far/old/fast etc.
* Why "ทำไม" ไม่ได้จะตอบ because ตลอด ส่วนมากจะตอบ To ...(เพื่อที่จะ)
* Have you / Has "รึยัง" มักจะตอบว่า Yes, already / No, not yet / No, I'm sorry
จุดสังเกตอีกอย่างคือ ถ้าในคำถามมีคำว่า will มักจะตอบช่วงเวลาที่อยู่ในอนาคตและ
ถ้ามีคำว่า did/was/were ให้ตอบสิ่งที่เกิดในอดีต
website สำหรับฝึกทำข้อสอบตอนที่ 2 นะคะ